วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บุรีรัมย์ พีอีเอ

         สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิมว่า บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นสโมสรฟุตบอลของประเทศไทย โดยลงเล่นในระดับไทยพรีเมียร์ลีก ผลงานสูงสุดของทีมคือ การคว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2551 และฤดูกาล 2554

         ประวัติสโมสร
           สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์-พีอีเอ เป็นสโมสรใหม่ที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีร่วมกันในหมู่คณะ
ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. โดยลงเล่น3ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นในถ้วย ค. และลงเล่นอยู่2ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นถ้วย ข. และอีก2ฤดูกาลสโมสรก็สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1ได้สำเร็จ
           หลังจากลงเล่นในดิวิชั่น 1อยู่นานสโมสรก็ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อได้รองแชมป์ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2547 และได้เล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2548 โดยฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดสโมสรสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อได้ตำแหน่งรองแชมป์ และศุภกิจ จินะใจกองหน้าของทีมก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้าของทีมการท่าเรือ ที่จำนวน10ประตู และยังได้เล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล2549อีกด้วย ฤดูกาล2551 สโมสรสามารถคว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของประพล พงษ์พาณิชย์และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือก ในฤดูกาล2552 สโมสรตกรอบคัดเลือกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ และมีผลงานในลีกไม่ดีนัก สโมสรจึงได้เปลี่ยนตัวกุนซือในเดือนพฤษภาคม ปี 2552 จากประพล พงษ์พาณิชย์เป็นทองสุข สัมปหังสิตอดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่นครราชสีมา
การเทคโอเวอร์สโมสร
การเทคโอเวอร์สโมสร เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 2552 จากความต้องการของนายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องการซื้อหุ้นทีมฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีกให้ย้ายไปเล่นในนามจังหวัดบุรีรัมย์เป็นการชั่วคราว ในขณะเดียวกันก็สร้างทีมใหม่อีกหนึ่งทีม ไต่อันดับขึ้นมาจากดิวิชันต่ำสุด ในเบื้องต้นได้เจรจากับสโมสรฟุตบอลตำรวจ แต่ได้รับการปฏิเสธ นายเนวินได้มีการเจรจาในเบื้องต้นกับสโมสรฟุตบอลทีโอทีและสโมสรฟุตบอลทหารบก แต่ตกลงกันไม่ได้ ในที่สุดจึงได้มีการซื้อขายหุ้นของสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีผลงานสิ้นสุดฤดูกาลในอันดับที่ 9 ทางสโมสรได้ตกลงที่จะย้ายสนามแข่งจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ท่ามกลางการต่อต้านจากแฟนฟุตบอลชาวอยุธยา และพนักงานของการไฟฟ้าฯ ทางสโมสรได้เปลี่ยนแปลงชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์-พีอีเอ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารทั้งหมด ทีมผู้ฝึกสอนบางส่วน


ฤดูกาล 2553 - 2554
การเข้ามาของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ ส่งผลให้มีการปรับปรุงและพัฒนาทีมอย่างมาก มีการนำระบบบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลอาชีพเข้ามาใช้กับบริษัท เช่น การทำสัญญาจ้างนักฟุตบอล การเจรจา และทำสัญญาซื้อขายนักฟุตบอลด้วยสัญญามาตรฐาน การสร้างสนามฟุตบอลแห่งใหม่ตามมาตรฐานของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เพื่อใช้เป็นสนามเหย้า การจัดทำระบบบัญชี การเงิน กฎหมาย การตลาด การโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ เต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความนิยมให้แก่ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ และ ความน่าเชื่อถือแก่บริษัท
ผลจากการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการธุรกิจ และพัฒนาทีมอย่างจริงจัง ภายใต้นโยบายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรคนใหม่ ส่งผลให้บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีกอย่างรวดเร็ว มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือแฟนคลับ มากถึง 65,000 คน  มีผู้เข้าชมเกมการแข่งขัน นัดละไม่น้อยกว่า 10,000 คน เมื่อเป็นเจ้าบ้าน และเมื่อเป็นทีมเยือน จะมีแฟนบอลติดตามไปชมไม่น้อยกว่า 1,500 คน อีกทั้งยังเป็นทีมที่สร้างสถิติผู้เข้าชมสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีก คือ 25,000 คน และ สร้างสถิติจำหน่ายของที่ระลึกได้สูงสุด 1,400,000 บาท ภายในวันเดียว คือนัดที่เตะกับเมืองทองยูไนเต็ด เมื่อวันที่ กันยายน 2553
ในฤดูกาล 2554 ทีมบุรีรัมย์-พีอีเอได้เป็นแชมเปียนไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก หลังจากเอาชนะ ทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากองทัพบก เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2554 ได้คะแนน 75 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสอง ทั้งที่ยังมีการแข่งขันเหลืออีก 4 นัด  โดยมีพิธีมอบถ้วยรางวัลหลังการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาล และยังได้ทริปเปิลแชมป์ หรือ 3 แชมป์ ในฤดูกาลเดียวกัน เมื่อเอาชนะทีมการท่าเรือไทย เอฟ.ซี.ไปได้ 2-0 ที่สนามศุภชลาศัย ได้แชมป์โตโยต้า ลีกคัพ หลังจากการได้แชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และไทยคม เอฟเอคัพ ไปแล้ว โดยถือว่าเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่ทำได้แบบนี้และยังได้แชมป์ที่ 4 ด้วยการเอาชนะ ทีมเวลกัตตะ เซนได จากเจลีกด้วยลูกจุดโทษ ในรายการโตโยต้า พรีเมียร์คัพ ไปได้ 5-3 หลังในเวลาเสมอ 1-1
ฤดูกาล 2555
ภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ฝ่ายเจ้าของสิทธิ์ของสโมสรเดิม คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเดิมอยู่ในการกำกับดูแลของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูลจากพรรคภูมิใจไทย ได้เปลี่ยนมาอยู่ในการกำกับดูแลของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์จากพรรคเพื่อไทย ได้มีนโยบายที่จะย้ายสโมสรออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ ผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่าฝ่ายนายเนวินจะขายหุ้น 70%  ที่ตนถืออยู่ออกไป จะแยกทีมการไฟฟ้าออกจากจังหวัดบุรีรัมย์และย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ส่วนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมบุรีรัมย์-พีอีเอเดิม จะไปรวมกับสโมสรฟุตบอลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้แชมเปียนไทยลีกดิวิชั่น 1 และเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2555 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"
นายเนวินกล่าวว่า ในฤดูกาล 2555 สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (บุรีรัมย์เอฟซีเดิม) จะลงเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ด้วยโควตาชนะเลิศฤดูกาล 2554 ของบุรีรัมย์-พีอีเอ ส่วนทีมการไฟฟ้าที่แยกตัวออกไป จะลงเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกด้วยโควตาของบุรีรัมย์เอฟซีเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555 นายเนวินได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ซื้อหุ้นอีก 30% ของสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาบริหารจัดการเองทั้งหมด รวมทั้งสิทธิทั้งหมดในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากนั้นจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ตามแผนเดิม ส่วนสิทธิการเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกของบุรีรัมย์ เอฟซีนั้น จะโอนให้กับ สงขลา เอฟซี ของนายนิพนธ์ บุญญามณี ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น จะไม่มีการส่งทีมเข้าแข่งขันรายการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอีกต่อไป

ผู้ฝึกสอน
รายชื่อผู้ฝึกสอน (2550 - ปัจจุบัน)
ชื่อสัญชาติระยะเวลาความสำเร็จ
โชเซ่ อัลเวส เบอร์วิสธงชาติของบราซิล2550
ประพล พงษ์พาณิชย์ธงชาติของไทย2551-2552แชมป์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2551
ทองสุข สัมปหังสิตธงชาติของไทยพฤษภาคม 2552-พฤศจิกายน 2552
ธนเดช ฟูประเสริฐธงชาติของไทยพฤศจิกายน 2552-เมษายน 2553
อรรถพล บุษปาคมธงชาติของไทยเมษายน 2553-ปัจจุบันรองแชมป์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2553
รองแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 2553
แชมป์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2554
แชมป์ ไทยคม เอฟเอคัพ 2554
แชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 2554

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
ชุด ไทยพรีเมียร์ลีก 2553 Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
1ธงชาติของไทยGKศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
2ธงชาติของไทยDFธีราธร บุญมาทัน
4ธงชาติของไทยDFณภัทร ทับเกตุแก้ว
5ธงชาติของแคเมอรูนDFเอควาล่า เออร์มาน
6ธงชาติของไทยMFจักรพันธ์ แก้วพรม
7ธงชาติของไทยMFรังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ
8ธงชาติของไทยMFซอฟรอน เต๊ะมะหมัด
10ธงชาติของไทยFWกีรติ เขียวสมบัติ
11ธงชาติของไทยDFอภิเชษฐ์ พุฒตาล
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
12ธงชาติของไทยMFชารีฟ สายนุ้ย
30ธงชาติของแคเมอรูนMFแฟรงค์ โอแฮนด์ซ่า
20ธงชาติของแคเมอรูนMFโอบาม่า โจเซฟ ฟลอเรนต์
21ธงชาติของไทยMFเกรียงไกร อุระงาม
22ธงชาติของไทยFWอดิศักดิ์ ไกรสร
24ธงชาติของไทยFWศิริศักดิ์ ไฝดง
25ธงชาติของไทยGKกิตติคุณ แจ่มสุวรรณ
26ธงชาติของไทยFWยศพล เทียงดาห์
14ธงชาติของกานาFWแฟรงค์ อาเชียงปง
31ธงชาติของไทยDFชิติพัทธ์ แทนกลาง
32ธงชาติของไทยFWเอกภพ แสนสระ
17ธงชาติของแคเมอรูนFWบูบาร์ อับโบ้
29ธงชาติของแคเมอรูนMFคาเรนซ์ บิทัง จูเนียร์
ธงชาติของไทยDFประทุม ชูทอง

ผลงานในไทยลีก
  • 2547/48 - ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก - อันดับ 2 รองแชมป์
  • 2549 - ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก - อันดับ 10
  • 2550 - ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก - อันดับ 8
  • 2551 - ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก - อันดับ 1 แชมป์
  • 2552 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 9
  • 2553 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 2 รองแชมป์
  • 2554 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 1 แชมป์

 ผลงานอื่น ๆ

  • 2545/46 - ดิวิชั่น 1 - อันดับ 3
  • 2546/47 - ดิวิชั่น 1 - อันดับ 2 (เลื่อนชั้นสู่ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก)
  • 2553 - โตโยต้า ลีกคัพ 2010- รองแชมป์
  • 2554 - มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2011 - แชมป์
  • 2555 - โตโยต้า ลีกคัพ 2011- แชมป์ บุรีรัมย์ แชนแนล
             บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เปิดช่องโทรทัศน์ดาวเทียม "บุรีรัมย์ แชนแน่ล" (Buriram Channel) ทางดาวเทียมจานส้ม IPM 69 ตั้งแต่ในที่ 1 มกราคม 2555 เพื่อให้แฟนบอลได้เข้าถึงข่าวสาร และความเคลื่อนไหวของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมากขึ้น ซึ่งการถือกำเนิดของ บุรีรัมย์ แชนแน่ล นั้น เป็นแนวคิดของ เนวิน ชิดชอบ ที่อยากให้ทีมมีช่องทางนำเสนอเรื่องราวสู่แฟนคลับมากขึ้น ซึ่งเนวินเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2554 ว่า "ความฝันที่ผมอยากทำคือการทำช่องทีวีของบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งในต่างประเทศเขาก็มีช่องของสโมสรต่างๆ บาร์เซโลน่าก็มี บาร์ซ่าทีวี แมนฯ ยูไนเต็ดก็มี เอ็มยู ทีวี เชลซีก็มี เชลซีทีวี ของเราก็จะเป็นบุรีรัมย์ พีอีเอ แชนแน่ล อะไรก็ว่ากันไป แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมของเวลาก่อน เพราะตอนนี้ต้องรอให้แฟนคลับมีจำนวนมากพอที่จะติดตามรายการทีวีขอเรา แต่ยังไงก็ถือว่าเป้นสิ่งที่ผมต้องทำให้สำเร็จให้ได้"


Credit : Wikipedia

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น